ปกตินักพนันออนไลน์ส่วนใหญ่ คงเลือกลงเดิมพันผ่านกีฬาฟุตบอล หรือเล่นเกมกาสิโนอย่าง บาคาร่า หรือ รูเล็ท แต่คุณคงรู้ไม่ว่านอกจากการเดิมพันเหล่านี้แล้ว หรือนอกจากการแทงบอลแล้ว เว็บไซต์พนันออนไลน์ส่วนใหญ่จะมี กีฬาอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณเลือกแทงได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น บาสเกตบอล, เทนนิส, เบสบอล, วอลเลย์บอล, และฮอกกี้น้ำแข็ง ถือว่าเหมาะกับนักพนันที่ชอบดูกีฬาและมีความรู้ความช่ำชองในกีฬาหลายชนิด โดยแต่ละกีฬามักจะมีเวลาแข่งขันที่ต่างกัน บางกีฬาแข่งช่วงเช้า บางกีฬาแข่งช่วงเที่ยง-เย็น บางกีฬาแข่งช่วงดึก นั่นทำให้นักพนันสามารถทำการลงเงินเดิมพันบนเว็บไซต์พนันออนไลน์ได้ตลอดเวลา โดยในวันนี้เราได้รวบรวม “5 ประเภทการเดิมพันกีฬาอื่น ๆ (นอกจากฟุตบอล) ที่ไม่เล่นไม่ได้แล้ว” เพื่อเป็นทางเลือกให้คุณเวลาเบื่อจากการเดิมพันฟุตบอล หรือในเวลาที่ไม่มีฟุตบอลลงทำการแข่งขัน

1.บาสเกตบอล (Basketball)

อันดับแรกเรามาเริ่มที่กีฬายัดห่วง โดยสำหรับการแข่งบาสเกตบอลในแต่ละเกม จะแบ่งออกเป็น 4 ควอเตอร์ ควอเตอร์ละ 15 นาที โดยคุณสามารถเดิมพันได้ทั้งแบบแยกแต่ละควอเตอร์ หรือจะเลือกเดิมพันแบบครึ่งแรก-ครึ่งหลัง โดยควอเตอร์ที่ 1-2 จะนับเป็นครึ่งแรก และควอเตอร์ที่ 3-4 ก็คือช่วงครึ่งหลัง หรือที่นิยมที่สุดก็จะเป็นการเดิมพันแบบเต็มเวลา หรือ 4 ควอเตอร์

โดยการแทงบาสเกตบอล โต๊ะจะเปิดรับการเดิมพันทั้งหมด 3 รูปแบบ ประกอบด้วย การแทงแบบราคาต่อรอง, คะแนนสูง-ต่ำ และการแทงแบบคู่คี่ โดยส่วนใหญ่แล้วนักพนันมักจะเลือกเดิมพนันกันเฉพาะ 2 แบบแรก เพราะคุณจะสามารถนำหลักการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ได้

2.เทนนิส (Tennis)

สำหรับกีฬาที่ 2 คือ เกมหวดลูกสักหลาด หรือ เทนนิส เป็นกีฬาที่เล่นทั้งในร่มและกลางแจ้ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสถานที่ขัดแข่งขัน โดยเป็นกีฬาแบบเดี่ยว ที่จะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายแข่งกัน และใช้ไม้เทนนิสตีส่งลูกไปมาเหนือตาข่าย โดยจะต้องพยายามตีลูกให้ลงในเขตแดนของคู่แข่ง จนคู่แข่งไม่สามารถตีลูกกลับมาลงในแดนของเราได้จะถือว่าได้เเต้ม โดยเทนนิสก็จะมีรูปแบบให้เลือกเดิมพันไม่ค่อยต่างจากกีฬาอื่นนัก โดยประกอบไปด้วย การแทงแบบ Money Line (เลือกเดิมพันทายผลผู้ชนะ) , ราคาต่อรอง, สูง-ต่ำ และคู่-คี่

3.วอลเลย์บอล (Volleyball)

ถัดมาเป็นอีกกีฬายอดนิยมในประเทศไทย นั่นคือ วอลเลย์บอล หลายคนคงพอรู้ความหมายและวิธีการเล่นของกีฬานี้แล้ว แต่วันนี้เราจะมาทวนเพื่อหลายคนที่อาจลืมหรือยังไม่รู้ โดยกีฬาตบลูกยางชนิดนี้ จะแข่งขันเป็นเซ็ท เซ็ทละ 25 แต้ม ฝั่งไหนเก็บได้ก่อน 3 เซ็ทจะถือว่าชนะ โดยการเดิมพันก็จะคล้ายกับกีฬาบาสเกตบอล ที่จะให้คุณเดิมพันได้ทั้งแบบเลือกเซ็ท และเต็มเวลา แต่จะไม่มีการเดิมพันแบบครึ่งแรก-ครึ่งหลัง เพราะกีฬาชนิดนี้ไม่มีการแบ่งครึ่งการแข่งขัน

โดยรูปแบบการเดิมพันที่โต๊ะจะเปิดให้ผู้เล่นมาลงทุนในกีฬาวอลเลย์บอล ประกอบไปด้วย การแทงแบบ Money LINE (ทายผลว่าทีมใดจะเป็นฝ่ายชนะ), Handicap (ราคาต่อรอง ที่จะมีให้แทงทั้งเต็มเวลาและแบ่งเป็นเซ็ท) , Over-Under (สูง-ต่ำ ก็สามารถแทงได้ทั้งแบบเซ็ทและเต็มเวลาเช่นกัน) และสุดท้ายการแทงแบบคู่-คี่ ทั้งนี้ ในการพนันวอลเลย์บอล นักพนันส่วนใหญ่มักจะเลือกเดิมพันแบบทายทีมชนะ เพราะง่ายต่อการดูและวางเดิมพัน

4.แฮนด์บอล (Handball)

ต่อมาอาจจะเป็นกีฬาที่คนไทยไม่ค่อยคุ้นชินนัก นั่นก็คือกีฬา ‘แฮนด์บอล’ โดยกีฬาชนิดนี้ก็ตามชื่อเลย จะใช้มือเป็นหลักสำคัญในการเล่น โดยมีการแบ่งทีมเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 7 คน รวมผู้รักษาประตูแล้ว โดยมีกติกาให้ขว้างลูกบอลให้เข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม แข่งกันทั้งสนามในร่มและกลางแจ้ง แต่ต้องเป็นสนามขนาด 40×20 โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 30 นาที โดยลีกอาชีพส่วนใหญ่ที่เปิดให้แทงจะเป็นของต่างประเทศ อาทิเช่น เจแปนแฮนด์บอลลีก (ญี่ปุ่น) , แฮนด์บอลเดิสลีกา (เยอรมนี) , เดนิชแฮนด์บอลลีก (เดนมาร์ก) ซึ่งรูปแบบวิธีการเดิมพันที่โต๊ะเปิดให้แทงก็ไม่ต่างจากกีฬาที่เคยกล่าวมา ทั้งแบบ Money Line, ราคาต่อรอง, สูง-ต่ำ และคู่-คี่

5.เบสบอล (Baseball)

มาถึงกีฬาสุดท้ายหรือกีฬาที่ 5 ในบทความนี้ อาจเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงในไทยซักเท่าไหร่ อาจจะเพราะเราจะหาสนามที่เล่นกีฬานี้ได้ยากมาก ๆ นั่นก็คือกีฬา ‘เบสบอล’ นั่นเอง โดยกติกามีอยู่ว่า เบสบอลจะแข่งกันทั้งหมด 9 อินนิ่ง (Inning) ในแต่ละอินนิ่ง ทั้งสองทีมจะผลัดกันเล่นเกมรุกและเกมรับ ต้นเกม top เริ่มต้นการแข่งในแต่ละอินนิ่ง ท้ายเกม bottom การที่ฝ่ายรับเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายรุก หรือฝ่ายบุกเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายป้องกันในแต่ละอินนิ่ง ส่วน Called game คือ การที่กรรมการประกาศยุติการแข่งขันในอินนิ่งที่ห้า เนื่องจากว่ามีแต้มห่างกันอย่างน้อยสิบแต้ม และ Extra Inning อินนิ่งพิเศษ คือการแข่งต่ออินนิ่งพิเศษออกไป เนื่องจากว่าแข่งกันจบเก้าอินนิ่งแล้ว ทั้งสองทีมยังมีคะแนนเสมอกันอยู่ โดยกีฬาเบสบอลจะมีผู้เล่นทั้งหมด 9 คน ทุกคนเล่นทั้งเกมรุกและเกมรับ ซึ่งวิธีการเดิมพันก็เหมือนเดิม Money Line, ราคาต่อรอง, สูง-ต่ำ และคู่-คี่

และนี่คือทั้ง 5 กีฬา (นอกเหนือจากฟุตบอล) ที่เรานำมาแนะนำให้คุณลองไปเดิมพัน เราหวังว่าในบทความนี้จะทำให้คุณมีความเข้าใจทั้ง 5 กีฬานี้ได้มากขึ้น และหวังว่าคุณจะเกิดแรงบันดาลใจหรือไอเดีย ในการลองเดิมพันใน 5 กีฬาเหล่านี้ เพราะมันจะช่วยให้คุณมีเทคนิคการพนันที่ดีขึ้น และมีอาวุธในการลงเดิมพันที่มากขึ้น และมันอาจส่งผลต่อกำไรที่มากขึ้นของคุณ และในท้ายนี้เราก็ขอแนะนำให้คุณลองเดิมพันในหลาย ๆ กีฬา เพื่อความหลากหลายและการหาทางเลือกที่มากขึ้น และอย่าลืมวางแผนการเงินให้ดี จะได้มีแต่กำไรไม่หมดเนื้อหมดตัว